รีวิว Wild Hearts ประสบการณ์ใหม่สำหรับเกมแนวล่ามอนสเตอร์ ที่มีแผลเยอะพอสมควร

Platform: PlayStation 5, Xbox Series X/S, PC

Developer: KOEI TECMO GAMES CO., LTD.

Publisher: Electronic Arts

Release Date: 16 February 2023

ผลงานใหม่จากทาง EA และทีมงาน Omega Force ผู้อยู่เบื้องหลัง Dynasty Warrior กับเกมแนวล่ามอนสเตอร์ขนาดใหญ่ที่มีกลิ่นอายความเป็น Monster Hunter ที่สูงมาก มันจะยอดเยี่ยมเหมือนที่ใครหลาย ๆ คนหวังเอาไว้หรือไม่ มาหาคำตอบกันได้ในรีวิวตัวนี้ครับ

Presentation

Wild Heart เป็นเกมแนวล่า Monster แบบ 3 VS 1 โดยจุดเด่นของเกมนี้เลยก็คือธีมหลักของเกมนี้ที่มีความเป็นญี่ปุ่นโบราณ ที่ออกแบบมาได้สวยงามมากทั้ง ฉาก อาคารบ้านเรื่อน เครื่องแต่งกายรวมไปถึงเหล่า Monster ขนาดยักษ์ที่ก็มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นพอสมควร

อีกอย่างที่ไม่ชมไม่ได้เลยก็คือการออกแบบฉากและสภาพแวดล้อมที่ทาง Omega Force ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ทั้งฉากทุ่งหญ้า ทุ่งน้ำแข็ง ทุกที่ล้วนออกแบบมาได้อย่างสวยงาม ฉากภายในเกมก็ออกแบบมาได้ดี เล่นสนุกใช้ได้เลย แถมการออกแบบในส่วนของ Ui ต่าง ๆ ก็ออกแบบมาให้เข้าใจได้ง่ายมาก ๆ ก็จริงที่ในเกมนี้มีระบบเยอะไปหมดแต่ผู้เล่นก็สามารถเข้าถึงระบบต่าง ๆ ได้ง่ายมาก เรียกได้ว่าสะดวกสุด ๆ ไปเลย

และทางทีมงานก็ได้ออกมายืนยันแล้วด้วยว่า Wild Heart จะไม่มีระบบ Microtransaction อยู่ภายในเกมอย่างแน่นอน ไอเทมทั้งหมดในเกมนี้คุณจะต้องฟาร์มด้วยตัวของคุณเองทั้งหมดเพราะฉนั้นหมดปัญหาตัวละคร OP อย่างรวดเร็วไปได้เลยครับ

Gameplay

สำหรับเราถ้าเทียบ Wild Heart กับ Monster Hunter เรารู้สึกว่าเกมเพลย์ในส่วนของการต่อสู้กับ Monster นั้น Wild Heart จะมีการออก Action ที่รวดเร็วกว่า Monster Hunter อยู่พอสมควร อาวุธทั้ง 8 ชิ้นภายในเกมนี้ที่ต่อให้เป็นอาวุธที่ขึ้นชื่อว่าเคลื่อนที่ได้ช้าที่สุดก็จะมีบางทักษะที่ทำให้เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วอยู่ดีทำให้การต่อสู้นั้นลื่นไหลพอสมควร

และสิ่งที่ทำให้ Wild Heart มีความโดดเด่นกว่าเกมอื่น ๆ ก็คือระบบ Karakuri หรือระบบการสร้างสิ่งปลูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกในระหว่างการต่อสู้ที่มันมีหลากหลายมากไม่ว่าจะเป็นใบพัดที่ช่วยในการบินข้ามจุดต่าง ๆ ที่ไม่สามารถกระโดดแบบปรกติได้ หรือจะเป็นกำแพงที่ถ้ามอนสเตอร์วิ่งมาชนพวกมันก็จะติดสถานะมึนและล้มลงในทันที และยังมีอุปกรณ์อื่น ๆ ให้เล่นอีกมากมายที่จะปลดล็อคได้เมื่อเล่นผ่านภารกิจหลักไปเรื่อย ๆ

ในส่วนของการคราฟอาวุธและชุดเกราะนั้นถ้าคุณเคยผ่าน Monster Hunter มาก่อนก็แทบจะไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรใหม่เลย ด้วยระบบการอัพเกรดที่จะแบบออกเป็น Tree ต่าง ๆ ที่บางสายจะเน้นโจมตีธาตุ หรือเน้นที่ความคมก็ได้เป็นต้นแต่สิ่งที่เกมนี้ทำได้ดีในส่วนของการสร้างก็คือการที่คุณสามารถนำ Skill จากอาวุธชิ้นก่อนที่คุณถูกใจโอนย้ายมันไปยังอาวุธชิ้นใหม่ได้ ทำให้ในเกมนี้คุณจะสร้าง Build ได้หลากหลายมากพอสมควรเลยครับ

Performance

มาถึงในส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาที่สุดสำหรับเกมนี้แล้ว ก็จริงที่เครื่อง PC ของเราค่อนข้างที่จะเก่าแล้วแต่อย่างน้อย ๆ มันก็ผ่านขั้นต่ำของเกมแต่ประสบการณ์ที่เราได้รับนั้นมันค่อนข้างไม่ดีเอาเสียเลย ไม่ว่าจะเป็นอาการ FPS ร่วงบ่อยมากในหลาย ๆ พื้นที่ หรือบางครั้งถึงขั้นทำเกมของเราล่มไปเลย เท่าที่ดูเรารู้สึกว่าปัญหานี้น่าจะเกิดจากฉากที่สวยงามมากของเกมที่ทั้งเกมจะเต็มไปด้วยใบไม้ที่พลิ้วไหว ใบที่ลอยไปตามลม หิมะที่ตก เหมือนเกมจะต้อง Render ทุก ๆ อย่างภายในฉากทำให้ตัวเกมนั้นกินแรงเครื่องแบบสุด ๆ แถมเรายังไม่สามารถเข้าไปปิดในส่วนของ Global Illumination ได้เลยด้วย ซึ่งตอนแรกเราก็ถึงว่าเป็นที่คอมเราไม่แรงแต่พอเราไปดูรีวิวจากเจ้าอื่นบน PS5 เราก็ได้รู้เลยว่าขนาด Console ที่ดีที่สุดในปัจจุบันอย่าง PS5 ก็ยังไม่สามารถที่จะเล่นเกมนี้แบบลื่น ๆ ได้เลย ซึ่งหลังจากนั้นก็มี Patch ออกมาแก้ไขแบบรัว ๆ แต่จนถึงตอนนี้ตัวเกมก็ยังไม่ลื่นเท่าที่ควรเลยครับ

สรุป

ถึงแม้ว่า Performance ที่ออกมามันจะค่อนข้างแย่แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า Wild Heart เป็นเกมที่โดดเด่นเป็นอย่างมากในส่วนของ Gameplay ที่มันเข้าถึงง่าย หลากหลาย รวดเร็วและท้าทายถ้า Performance ของเกมนี้ได้รับการแก้ไขจนสามารถเล่นได้แบบไม่มีปัญหาแล้วละก็เกมนี้ก็อาจจะกลายเป็นเกมที่สามารถสู้กับ Monster Hunter ได้อย่างสูสีเลยก็เป็นได้ครับ

คะแนนจากทางเรา: 7/10