รีวิว Theathrythm Final Bar Line เกมแนวจับจังหวะจากเกม JRPG ระดับตำนาน

Platform: PlayStation 4, Nintendo Switch

Developer: Square Enix Creative, Business Unite I, indieszero

Publisher: Square Enix

Release Date: 16 February 2023

 Theathrythm Final Bar Line นับเป็นเกมภาคล่าสุดของซีรีส์เกมกดจังหวะจาก Final Fantasy ซีรีส์เกม J-RPG ระดับตำนานที่อยู่คู่กับวงการเกมมาเกิน 20 ปีแล้ว และการกลับมาในคราวนี้พวกเขาก็ได้จัดเต็มกับรายละเอียดที่ใหม่ ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามามากมาย มันจะยังมัดใจคนรีก Final Fantasy เหมือนที่เกมภาคก่อนทำเอาไว้ได้หรือไม่มาหาคำตอบได้ในรีวิวตัวนี้ครับ

Presentation

ในด้านงานภาพของ Theathrythm Final Bar Line นั้นไม่ได้มีความแตกต่างจากเกมภาคแรกเท่าไหร่นอกจากความชัดที่มีมากขึ้นจากการที่เปลี่ยนจากเครื่อง Nintendo DS มาเป็น Nintendo Switch และ PS4 แต่สำหรับใครที่ไม่เคยเล่น ในเกมนี้วงานภาพหลัก ๆ จะทำออกมาเป็นการ์ตูนสไตล์ 2D ที่ตัวละครจะมาในรูปแบบ SD ที่สุดแสนจะน่ารักอีกด้วย แต่ในภาคนี้นอกจากจะมีการนำเสนอฉากหลังเป็นตัวละครแล้ว ตัวเกมยังมีการนำเอา Cutscene สุดสวยงามจากเกมภาคต่าง ๆ มาเป็นฉากหลังในการเล่นอีกด้วย เรียกได้ว่าเอาใจแฟนเกมซีรีส์นี้กันแบบสุด ๆ เลย

แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับเกมแนวจับจังหวะนั้นก็คือเพลง เพลงของตัวเกมภาคนี้เรียกได้ว่าพวกเขาใส่เพลงต่าง ๆ เข้ามากันแบบจัดเต็มโดยจนถึงตอนนี้ตัวเกมมีเพลงให้เล่นมากกว่า 502 เพลงที่จะสามารถปลดล็อคไปตามเนื้อเรื่องของเกม และนี่ยังไม่รวม DLC ที่จะตามมาในอนาคตอีก

Gameplay

จากตัวเกมบนภาค DS ที่จะต้องกดปุ่มตามจังหวะที่ปรากฏ ในเกมภาคนี้เราจะได้กดปุ่มบนเครื่องบ้างแล้ว และพวกเขาก็ทำออกมาได้ดีมากด้วย โดยเท่าที่เราเล่นมาทีมงานทำโน็ตออกมาได้ดีและเล่นได้สนุกมา ๆ และคุณสามารถใช้ทุกปุ่มบนอนาล็อคกดได้เลยเพราะตัวเกมไม่ได้มีปุ่มกดจำเพาะเอาไว้ (สำหรับโน็ตส่วนใหญ่) นั้นทำให้คุณสามารถที่จะกดปุ่ม A, B, X หรือ Y ในการเล่นได้เลย

ส่วนโน้ตนั้นก็จะมาเป็นสีที่จะมีรูปแบบการกดที่ต่างกันออกไปเช่น สีแดงคือกดจังหวะเดียว สีเขียวคือกดลากยาว สีเหลืองที่จะมาพร้อมทิศทางก็ให้เราดันก้านอนาล็อคไปในทิศทางลูกศร ซึ่งก็ต้องยอมรับกันตามตรงว่าถึงแม้เกมจะทำโน็ตออกมาได้สนุกมากแต่มันก็ยากมากด้วยเช่นเดียวกัน ขนาดเราที่ผ่านเกมแนวนี้มาเกิน 20 เกม ยังถือว่าเล่นได้ยากพอสมควร (ยิ่งระดับความยาก Master นี่แทบจะยอมแพ้เลยในช่วงแรก ๆ) เพราะฉะนั้นใครที่ชอบความท้าทายเกมนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอนครับ

Performance

ตัวเกมเวอร์ชั่นที่เราได้เล่นนั้นจะเป็นเวอร์ชั่น Nintendo Switch ที่ในโหมดการถือปรกตินั้นตัวเกมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรสามารถเล่นได้ตามปรกติ แต่พอเราต่อ Dock เพื่อออก TV แล้วใช้ Pro Controller เรารู้สึกเลยว่าจังหวะการกดโน้ตมันเพี้ยนไปพอสมควร ก็จริงที่ในเกมจะมีให้ปรับจังหวะสำหรับการต่อออก TV ให้ด้วยแต่มันเหมือนจะมี Delay อยู่นิดหน่อยทำให้อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวกันสักระยะสำหรับใครที่จะเล่นแบบต่อออก TV (แต่ในปัจจุบันปัญหาตรงนี้ได้แก้แล้วเรียบร้อยสามารถเล่นได้ตามปรกติแล้วครับ) ในส่วนอื่น ๆ ก็ถือว่าไม่ได้มีปัญหาในการเล่นแต่อย่างใดครับ

สรุป

ถือว่าเป็นเกมที่เอาใจทั้งคนที่ชอบเกมแนวกดตามจังหวะและที่สำคัญเลยคือคนที่รักซีรีส์ Final Fantasy ถ้าคุณเป็นแฟนของ Final Fantasy คุณก็ไม่ควรที่จะพลาดเกมนี้เพราะเราพูดเลยว่าขนาดเราไม่ใช่แฟนตัวยงของเกมนี้แต่ก็มีบางเพลงที่ทำเอาเราน้ำตาซึมได้เลย นี่คือเกมที่ทำออกมาเพื่อคนที่รักซีรีส์นี้อย่างแท้จริงครับ

คะแนนจากทางเรา: 9.5/10