รีวิว The Outer World เกม RPG ในตำนานจากผู้สร้าง Fallout New Vegas
Platform: Nintendo Switch, PlayStation 4, Xbox One, PC
Developer: Obsidian Entertainment
Publisher: Private Division
Release Date: 23 October 2020
The Outer World เป็นอีกหนึ่งเกม RPG ที่เรารอเล่นมาโดยตลอดแต่ด้วยราคาเปิดที่สูงมาก 1490 บาทเราจึงไม่มีโอกาสได้เล่นและก็ลืมเลือนไปตามกาลเวลาจนประทั่งการมาถึงของ PC Game Pass จากทาง Xbox ที่มีเกมนี้ให้ได้เลือกเล่นด้วยเราจึงไม่รอช้าหยิบมันขึ้นมาลองเล่นในทันที และเราก็ได้พบกับความประทับใจมากมายจากเกมนี้และวันนี้เราจะมารีวิวให้กับทุกท่านที่ยังคงลังเลอยู่ว่าจะหยิบเกมนี้ขึ้นมาเล่นดีหรือไม่ครับ

Presentation
ด้วยความที่ผู้สร้าง The Outer World เคยทำเกมสุดยอดเยี่ยมอย่าง Fallout New Vegas มาการนำเสนอในด้านเนื้อเรื่องของเกมนี้จึงดีไม่ต่างกันเลยทั้งตัวเลือกมากมายที่ส่งผลต่อเกมการเล่นทางเลือกที่คุณอาจไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อก็มี แต่แน่นอนว่าภาษาอังกฤษคุณต้องอยู่ในระดับ ดีถึงดีมากเพราะเกมใช้ภาษาที่ค่อยข้างยากและมีสำนวนค่อนข้างเยอะ แต่ถึงคุณจะ Skip บทสนทนาตลอด คุณก็สามารถเล่นเกมนี้จบได้แต่คุณจะพลาดเนื้อเรื่องสุดยิ่งใหญ่ของเกมนี้ไปเลย ในด้านงานภาพถ้าเราเทียบกับเกมที่ออกในปีเดียวกัน The Outer World ถือว่าไม่ได้มีภาพโดดเด่นไปมากกว่าเกมอื่นเท่าไหร่แต่ก็มีงานศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ซึ่งดูเหมือนว่าทีมงานจะค่อนข้างเน้นหนักไปที่การเล่าเนื้อเรื่องและเกมการเล่นมากกว่า
Gameplay
ถ้าคุณเคยเล่น Fallout New Vegas มาก่อนคุณก็จะทำความเข้าใจเกมนี้ได้อย่างไม่ยากเลยเผลอ ๆ งานกว่าด้วย ด้วยความที่เขาได้ทำการลดรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างมากมายใน New Vegas ไม่ว่าจะเป็นชนิดกระสุน ชุดเกราะมากมาย ให้น้อยลงและเข้าใจได้ง่ายมากขึ้น ผู้เล่นใหม่ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้ การควบคุมก็ทำออกมาได้ง่าย ระบบ V.A.T ที่หายไปและเปลี่ยนเป็นพลัง Slow แทนก็ทำออกมาได้ดี และในการออกแบบแผนที่ตอนแรกเราก็คิดว่าจะมีแค่ดาวดวงเดียวเพราะดาวนั้นก็มีขนาดใหญ่พอสมควรแล้ว และหลังจากที่เราได้กลับขึ้นยานเราก็พบว่ามันยังมีดาวดวงอื่นอีกมากมายที่มีขนาดพอ ๆ กันหรือใหญ่กว่าอีกเยอะพอสมควร ใครเป็นสายสำรวจนี้ได้ติดพันธ์กันเกมนี้ยาว ๆ เกิน 100 ชั่วโมงแน่นอนครับ

Performance
ต้องชื่นชมเลยว่าตัวเกมได้รับการขัดเกลาออกมาได้ดีมากตลอดการเล่นกว่า 30 ชั่วโมงเราไม่เจอกับ Bug ได้ ๆ เลยแม้แต่นิดเดียวทั้งอาการเดินติด อาการจมเข้าไปในแผนที่ที่ควรจะเป็นปัญหาสามัญก็ไม่มีเลย แต่ก็ต้องบอกกันตามตรงว่าเกมค่อนข้างกินแรงเครื่องพอสมควรขนาดเครื่องเราที่ใช้การ์ดจอ GTX 1060 8G DDR5 เรายังต้องปรับภาพลงไปที่รับดับ Low ถึงจะสามารถรันเกมนี้ได้ที่ 60 FPS แบบนิ่ง ๆ ได้
สรุป
The Outer World ถือเป็นเกมแนว RPG ที่เข้าถึงได้ง่าย เล่นสนุกเควสไม่น่าเบื่อ แต่ก็มีความยากที่กำแพงภาษาอยู่แต่ถ้าคุณได้ภาษาแล้วอยากสัมผัสกับเรื่องราวอันยอดเยี่ยมที่คุณจะได้เป็นผู้กำหนดมันด้วยตัวของคุณเองแล้วล่ะก็ The Outer World จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษนั้นให้กับคุณได้อย่างแน่นอนครับ
คะแนนจากทางเรา: 9/10