รีวิว Postal: Brain Damaged จากเกม Open World สู่เกมเดินหน้ายิงสุดระยำต่ำตม
Platform: PlayStation 4, Xbox One, PC
Developer: Hyperstrange, CreativeForge Games
Publisher: Running With Scissors, Hyperstrange
Release Date: 9 June 2022
Postal เกมยิงสุดต่ำตมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความหยาบคายย่างเต็มรูปแบบที่ได้มีภาคต่อมาแล้วถึง 3 ภาค (แม้ว่าภาคที่ 3 จะย่ำแย่จนแม้แต่ทีมงานยังไม่นับว่าเป็นเกม Postal เลยก็ตาม) และภาค 4 ก็จะตามออกมาในอีกไม่นานนี้ แต่เราก็ได้ Postal ภาคใหม่ออกมาก่อนที่จะได้เล่นภาคต่อที่แท้จริง และนี่จะเป็น Postal ภาคแรกที่ทีมงาน Running With Scissors ไม่ได้เป็นผู้พัฒนา (ถ้าไม่นับภาค 3) มันจะออกมายอดเยี่ยมขนาดไหนมาดูกันได้ในรีวิวตัวนี้เลยครับ

Presentation
ตัวเกมในภาคนี้ได้ถูกเปลี่ยนจากเกมแนว Open World ให้กลายเป็นเกมแนว Bommer Shooter หรือกมแนวเดินหน้ายิงสไตล์ Doom ที่ผู้เล่นหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่านี่มัน Doom Guy เวอร์ชั่นติดยาชัด ๆ เพราะถึงจะเปลี่ยนเป็นเกมเดินหน้ายิง แต่ความสัปดนและความรุนแรงทั้งการกระทำและคำพูดยังคงความเป็น Postal ได้อย่างไม่มีตกหล่น ภาคภายในเกมนี้ก็ไม่ได้สวยงามเท่าไหร่ แต่สไตล์งานภาคจะให้อารมณ์เกมประมาณยุค 80 – 90 และงานออกแบบฉากก็ทำออกมาได้ดีและวิ่งสนุกมาก การออกแบบสัตว์ประหลากบางตัวที่แทบจะหลุดมาจากเกม Doom ทั้งเวอร์ชั่นปี 2016 และ Eternal เลยด้วยซ้ำ จนเรารู้สึกเลยว่าเกมนี้ถูกพัฒนามาส่วนหนึ่งเพื่อล้อเลียน Doom ที่แทบจะเป็นจุดกำเนิดของเกมแนว Bommer Shooter อย่างแน่นอนไม่มากก็น้อย
Gameplay
เกมเพลย์ของ Postal ภาคนี่จะเร็วและลื่นไหลกว่าภาคก่อน ๆ เป็นอย่างมาก ทั้งจากการเปลี่ยนแนวเกมและอาวุธต่าง ๆ ที่เกมมีให้อย่างมากมายและในตอนเล่นนั้นถ้าคุณรู้สึกว่ามันเหมือน Doom แบบสุด ๆ คุณไม่ได้คิดไปเองคนเดียวครับ เพราะเราเองหลังจากได้สัมผัสเราก็รู้สึกแบบนั้นเช่นเดียวกัน โดยฉากจะมีความเป็นเส้นตรงที่เราเลือกที่จะสำรวจ้างทางได้ และในบางจุดจะมีศัตรูอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ที่เราต้องจัดการให้หมดเพื่อที่จะไปต่อได้ การแก้ปริศนาก็มีความคล้ายกับ Doom ที่เราต้องไปสับ Switch หรือหาคันโยกมาเปิด หรือหาทางเข้าไปเก็บไปเทมลับผ่านทางลับต่าง ๆ ที่ให้อารมณ์ความเป็น Doom แบบสุด ๆ แถมปริศนาบางอย่างก็สุดจะสับประดลแบบสุด ๆ เอาเป็นว่าลองไปสัมผัสในเกมด้วยตัวคุณเองจะดีกว่า
เกมการเล่นโดยรวมถึงว่าสนุกมากแต่เราก็ได้พบกับข้อเสียคือถึงตัวเกมจะมี Auto Save แต่มันใช้เวลาในการ Save แต่ละครั้งหางกันมากเกินไป ในฉากแรก ๆ ไม่เท่าไหร่แต่ฉากหลัง ๆ ที่ตัวเกมใส่ Monster มาแบบกะฆ่าเราให้ได้นี่ทำเราตายไปหลายรอบแล้วการตายในช่วงหลัง ๆ เราต้องเดินไกลแบบไกลมาก ๆ ทำให้การเล่นในช่วงท้ายนั้นยากเกินความจำเป็นไปหน่อย

Performance
ตัวเกมถือว่าได้รับการขัดเกลามาดีพอสมควรเลยแม้ว่าภาพจะเป็นแบบนี้ก็ตามแต่ในจังหวะที่ยิงกันแบบหูกับตับไหม้ มีศัตรูนับสิบอยู่ด้านหน้าของเราและ Particle Effect มากมาย แม้ว่าเราจะปรับภาพขึ้นสุดแต่ตัวเกมก็สามารถรักษา FPS ของตัวเกมไว้ได้เป็นอย่างดี แล้วตัวเกมก็ไม่ได้มี Bug ยิ่งใหญ่อลังกาลแต่อย่างใดครับ
สรุป
นี่คือผลงาน Postal ที่ไม่ได้ถูกพัฒนาจากทีมงานต้นฉบับที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เกมการเล่นที่สุดแสนจะสนุก และความสับประดลแบบจัดเต็มเรากล้าการันตีเลยว่าต่อให้คุณซื้อราคาเต็มก็ยังคุ้มค่าย่างแน่นอนครับ แต่ด้วยความที่ตัวเกมมีความรุนแรงมากน้อง ๆ ที่ยังไม่บัลลุนิติภาวะเราก็ยังไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ครับเพราะตัวเกมมีเนื้อหาที่รุนแรงและมีฉากที่ไม่น่ามองมากมายเลยทีเดียว
คะแนนจากทางเรา: 8.5/10