รีวิว Gotham Knight เมื่อ Batman ได้จากไปผู้ผดุงความยุติธรรมรุ่นใหม่จึงต้องออกมาปกป้องเมืองแห่งนี้ด้วยตัวเอง

Platform: Xbox Series X/S, PlayStation 5, PC

Developer: Warner Bros. Games Montreal, QLOC

Publisher: Warner Bros. Games

Release Date: 22 October 2022

Gotham Knight แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีกระแสด้านลบมาตลอดตั้งแต่ช่วงก่อนเปิดตัวเลยก็ว่าได้ ทั้งข่าวลือเรื่องการกินทรัพยากรเป็นอย่างหนักบน PC หรือการที่เครื่อง Console รุ่นใหม่จะล็อคเฟรมเรทเอาไว้ที่ 30 ทำให้กระแสของเกมนี้ในบ้านเราถือว่าเงียบมาก ๆ แต่ด้วยความที่เราสนใจในตัวเกมอยู่พอสมควร เราจึงได้ซื้อมาลองเล่นดู และวันนี้เราก็พร้อมแล้วที่จะหยิบเกมนี้มารีวิวให้ทุกท่านได้รับชม จะเป็นยังไงก็ไปดูกันได้เลยครับ

Presentation

Gotham Knight จะเป็นเกมแนว Action Open World ในรูปแบบ Co – op ที่จะมีฉากหลังอยู่ในเมือง Gotham แต่ในเกมนี้ผู้เล่นจะได้เล่นเป็น 4 ลูกศิษย์ของ Batman อย่าง Robin, Batgirl, Knight Wing และ Red Hood จุดเด่นในด้านการนำเสนอของเกมนี้ก็คือการที่ผู้เล่นจะมีความอิสระในการรับเควสเป็นอย่างมากเพราะคุณจะไปทำเควสที่ไหนด้วยตัวละครไหนก็ได้ทั้งภารกิจหลักและภารกิจเสริมและการใช้ตัวละครที่ต่างกันในแต่ละภารกิจก็จะมีบทพูดที่แตกต่างกันออกไปด้วย แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือเมือง Gotham ของเกมนี้เป็น Gotham ที่มีการออกแบบสถานที่ต่าง ๆ ออกมาได้ดีเป็นอันดับต้น ๆ เลยทั้งความสวยงาม บรรยากาศที่ลงตัว อาจจะไม่ได้สวยงามเท่า Gotham Knight แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้น่าประทับใจพอสมควรครับ

Gameplay

จาก Gotham Knight ที่การต่อสู้จะเป็น Action อย่างเต็มรูปแบบแต่ใน Gotham Knight นั้นระบบการต่อสู้ได้ถูกเปลี่ยนให้มาเป็นเกมแนว Action RPG ที่จะต้องฟาร์มไอเทม ทำดาเมจเป็นธาตุ และอื่น ๆ ตามที่เกม RPG ควรจะมี และที่สำคัญเลยคือการต่อสู้จะช้าลงกว่าใน Gotham Knight อยู่พอสมควรเพื่อออกมารองรับการเล่นแบบ Co – op และทั้งสี่ตัวละครที่เราจะได้เล่นก็จะมีสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไปพอสมควรทำให้ทุกครั้งที่เปลี่ยนตัวละครมันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนบรรยากาศในการเล่น แต่มันคือการเปลี่ยนแนวทางในการเล่นไปเลย ถือว่าทีมงานออกแบบระบบการต่อสู้ออกมาได้ดีเลยทีเดียว

แต่ถึงจะบอกว่าเกมนี้เป็น Action RPG แต่มันก็ไม่ได้หลากหลายขนาดนั้น ก็จริงที่เราสามารถอัพสกิลของแต่ละตัวได้แต่ถ้ามาสังเกตกันดี ๆ สกิลส่วนใหญ่ในเกมนี้ของแต่ละตัวละครจะมีเพียงชุดเดียว แถมส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเพิ่มพลังโจมตีแบบตรง ๆ หรือทำให้ตัวละครมีเลือดที่เยอะขึ้นเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความหลากหลายของเกมแนว Action RPG ส่วนใหญ่คุณอาจจะเล่นเกมนี้จบได้เพียงแค่รอบเดียวเท่านั้นครับ

Performance

มาถึงในส่วนที่น่าจะเป็นประเด็นมากที่สุดของเกมนี้อย่างประสิทธิภาพของตัวเกมกันแล้ว ก็ต้องเกริ่นก่อนว่าเครื่อง PC ของเราไม่ใช่เครื่องที่แรงมากเท่าไหร่ โดยเครื่องของเราใช้การ์ดจอ GTX 1060 5GB DDR5, Ram 16 และ CPU Inter Core I5 Gen 9 เราก็ต้องบอกกันตามตรงเลยว่าเกมนี้เป็นเกมที่กินสเปคมาก ๆ จนน่าใจหายเพราะในช่วงแรก ๆ เราไม่สามารถเล่นเกมนี้บนภาพระดับปานกลางในความละเอียด 1920 * 1080 ได้เลยเพราะเฟรมเรทจะร่วงลงไปเหลือเพียง 20 ไม่พอแถมภาพมันก็ไม่ชัดในบางจุดด้วยโดยถ้าหากเราจะต้องการเล่นด้วยเฟรมเรตที่สูง เราต้องเอาทุกอย่างลงทั้งหมดรวมไปถึงความละเอียดที่เราต้องเอาลงไปที่ 1600 * 900 เราถึงจะสามารถเล่นเกมนี้ได้บนเฟรมเรทที่ 50 FPS ก็จริงที่ในตอนนี้ตัวเกมได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพขึ้นมามากจนเราสามารถรัน 60 FPS บนภาพระดับปานกลางที่ความละเอียด 1920 * 1808 ได้แล้วแต่ในช่วงแรก ๆ นั้นถือว่าเป็นการเล่นเกมที่ไม่สนุกเลยสำหรับเรา แถมตัวเกมยังมี Bug ที่อาจจะถึงขึ้นทำเกมล่มได้เลย แต่ในตอนนี้ก็ได้รับการปรับปรุงจนสามารถเล่นได้ดีแล้ว

สรุป 

ถือว่าไม่ได้ผิดคาดจากคะแนนรีวิวจากสื่อใหญ่ ๆ ทั่วโลกเกี่ยวกับ Performance ของเกมนี้ที่กินแรงเครื่องหนักมาก ๆ เนื้อเรื่องของเกมนี้ก็ไม่ค่อยน่าสนใจ การนำเสนอที่ไม่ได้หลากหลายสมกับเป็น Action RPG ยังดีที่พวกเขาทำระบบการต่อสู้ออกมาสนุกใช้ได้ถ้าคุณเป็นแฟนของ Batman เราก็อยากให้คุณหามาลองเล่นดูแต่ดูความต้องการของเครื่องดี ๆ เราแนะนำให้ดูในขั้นแนะนำไปเลยจะดีที่สุดครับ

คะแนนจากทางเรา: 5/10