รีวิว Darkest Dungeon 2 เส้นทางอันมืดหม่นกับความหวังอันริบหรี่และเหล่าผู้กล้าจิตใจโลเล
Platform: Xbox One, PlayStation 4, PC
Developer: Red Hook Studio
Publisher: Red Hook Studio
Release Date: 8 May 2023 (Steam)
Darkest Dungeon แค่เห็นชื่อก็สัมผัสได้ถึงความสิ้นหวังทุกครั้งที่เปิดเกมเล่น หนึ่งในเกมแนว Rogue Like สุดหัวร้อนที่ทำเมาส์และคอนโทรเลอร์ของหลาย ๆ คนบินมาแล้ว และหลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนานร่วมปีในที่สุด Darkest Dungeon 2 ก็ได้มาลงบน Steam ให้ได้สัมผัสกันแล้ว ตัวเกมจะยังสามารถรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ขนาดไหนมาหาคำตอบได้ในรีวิวตัวนี้ครับ
Presentation
สิ่งแรกสำหรับการนำเสนอที่เราชอบมาก ๆ เลยก็คืองานภาพที่อัพเกรดจากภาคแรกขึ้นมาเป็นอย่างมากแต่ยังคงรักษาความโหดและมืดหม่นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี จากภาคแรกที่ตัวละครจะมาในรูปแบบ SD และการโจมตีก็จะเป็นภาพนิ่ง ๆ ที่ไม่มีการขยับร่างกายเลยกลายมาเป็นตัวละครที่สมส่วนมีรายละเอียดและตัวละครจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและการโจมตีแต่ละท่าก็ยังเท่มาก ๆ อีกด้วย รวมไปถึงงานฉากที่มีความสวยงามมาก ๆ อีกด้วย
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือความยาก ก็ต้องยอมรับกันตรง ๆ เลยว่าเกมนี้มันเป็นเกมที่ยากจริง ๆ และด้วยความที่ตัวเกมเป็นแนว RPG Turn base ทำให้ความยากและความท้าทายทั้งหมดจะมาในรูปแบบ RNG หรือการสุ่ม ซึ่งคนที่เคยเล่นเกมภาคแรกมาก่อนน่าจะเข้าใจรูปแบบการเล่นดีอยู่แล้วแต่สำหรับคนที่ไม่เคยสัมผัสเกมภาคแรกมาก่อนเราบอกเลยว่าเกมนี้มันยากมากขอให้คุณเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี
Gameplay
เกมการเล่นโดยรวมจะมีความคล้ายคลึงกับเกมภาคแรกเลยคือเราจะต้องจ้างผู้กล้ามาและออกไปผจญภัยในโลกอันดำมืดแต่คราวนี้มันจะไม่ใช่การฟอร์มทีมเพื่อที่จะลงไปในดันเจี้ยนแล้วแต่โลกทั้งโลกของผู้เล่นจะกลายเป็นดันเจี้ยนแทนจากภาคแรกที่แค่กดเลือกดันเจี้ยนแล้วก็เดินไปตามทางเป็นห้อง ๆ ไป กลายมาเป็นเราจะต้องควบคุมรถม้าและออกเดินทางแทนซึ่งการเลือกเส้นทางจะไม่ใช้การขับไปจนถึงสุดห้องแล้วเลือกแต่จะกลายเป็นเราจะต้องควบคุมรถม้าให้ไปอยู่ชิดกับทางที่เราต้องการแล้วรถม้าจะเลี้ยวให้เองโดยอัตโนมัติ แต่เราจะไม่สามารถถอยหลังได้เพราะฉะนั้นเลือกให้ดี
และคราวนี้ในระหว่างทางเราจะไม่ได้เจอเพียงแค่ศัตรู กับดักหรือว่าสิ่งของให้สำรวจเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่เราจะได้เจอกับเหตุการสุ่มแบบต่าง ๆ เช่นการรวมตัวกันของชาวบ้าน หรือเจอปีศาจมาขวาง และตัวละครทั้ง 4 ของเราก็จะออกความเห็นกันซึ่งแต่ละความเห็นก็จะมีทั้งข้อดีข้อเสีย เราอาจจะต้องเสียคบเพลิงเพื่อแลกกับอาหาร หรือเข้าสู่การต่อสู้แต่ของรางวัลที่ได้จะมากขึ้นเป็นต้น

และสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นในภาคแรกหัวร้อนมากที่สุดเลยก็คือความเครียดของตัวละครที่เราจะต้องบริหารให้ดี จากในภาคแรกความเครียดจะเต็มอยู่ที่ 100 หน่วยแต่ในภาคที่ 2 นี้ความเครียดจะลดลงเหลือเพียงแค่ 10 หน่วยเท่านั้น และพอค่าความเครียดของตัวละครเต็มเราก็ต้องมาลุ้นแล้วว่าตัวละครเราจะแตกหรือว่าผงาด ซึ่งถ้ามันผงาดก็ดีไปเพราะมันจะช่วยเพิ่มค่าขวัญกำลังใจและทำให้ค่าความเครียดของตัวละครอื่น ๆ ลดลงไปด้วย แต่ถ้าแตกขึ้นมาละก็เรื่องใหญ่เพราะตัวละครนั้นจะได้รับ Debuff ที่มันจะทำให้ตัวละครนั้นกลายเป็นคนนิสัยเสียไปเลยและมันจะมีหลากหลายมากเช่น ตัวละครที่ควรจะยืนแนวหลังแต่อยู่ดี ๆ ก็กล้าขึ้นมาแล้วก็ขยับไปยืนแถวหน้า และอื่น ๆ อีกมากมายที่มันจะบั่นทอนจิตใจของตัวละครอื่น ๆ ให้แย่เข้าไปอีก
และภาคนี้นอกจากจะมีการดูแลค่าความเครียดที่จะต้องมาลุ้นดูว่าดีหรือร้ายแล้วเรายังจะต้องมาบริหารค่าความสำพันธ์ของแต่ละตัวละครด้วยเพราะถ้าเราบริหารดีและพวกเขาจะกลายเป็นมิตรที่มันจะทำให้พวกเขาสามารถทำคอมโบเพื่อเพิ่มความรุนแรงในการโจมตีได้เป็นต้น แต่ถ้าคุณบริหารไม่ดีและพวกเขากลายเป็นศัตรูกันเมื่อไหร่ มันก็แทบจะเหมือนกับการที่คุณทำให้ตัวละครแตกถึง 2 ตัวเลยทีเดียวเพราะตัวละครนั้น ๆ มันจะก่อเรื่องตลอดเวลาแม้ไม่ได้อยู่ในการต่อสู้เช่น ตอนที่ขับรถม้าพวกเขาก็อาจจะด่ากันและทำให้ตัวละครอื่น ๆ พลอยเครียดไปด้วยเป็นต้น
Performance
ในด้านประสิทธิภาพของตัวเกมทางทีมงานก็ทำมาได้ดีตั้งแต่ตัวเกมเวอร์ชั่น Beta แล้วโดยตลอดการเล่นของเรา เราไม่ได้เจอกับ Bug หรืออาการเกมล่มเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่แน่นอนด้วยภาพที่สวยขึ้นมันก็ทำให้กินแรงเครื่องหนักขึ้นมากพอสมควรเลยทีเดียวจากในภาคแรกที่ใช้การ์ดจอออนบอร์ดเล่นได้เลยมาในภาค 2 นี้คุณต้องใช้การ์ดจอที่ GTX 950 ในการเล่นเลยทีเดียวแต่การ์ดจอตัวนี้มันก็ไม่ได้แพงอะไรมากแล้วในยุคนี้ ใครที่มีคอมระดับกลาง ๆ ก็สามารถเล่นได้อย่างสบาย ๆ ครับ
สรุป
Darkest Dungeon 2 ยังคงรักษาเกมการเล่นที่ยากแต่ชวนติดพันธ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดีแต่ก็เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ เข้าไปทำให้ตัวเกมมีความหลากหลายมากขึ้น ใครที่ชอบเกมภาคแรกคุณก็สามารถซื้อได้เลยมันจะถูกใจคุณอย่างแน่นอนแต่ถ้าคุณไม่เคยเล่นซีรีส์นี้มาก่อนคุณอาจจะต้องเตรียมตัวให้ดีเพราะความยากและความหัวร้อนของเกมนี้เราขอบอกเลยว่า “ของจริง”
คะแนนจากทางเรา: 9/10